เรียนรู้อาการเตือนภัยที่ผู้สูงอายุหรือคนในครอบครัวไม่ควรละเลยพฤษภาคม 11, 2021 อาการเตือนภัยที่ผู้สูงอายุหรือคนในครอบครัวไม่ควรละเลย
มันอาจเป็นเรื่องง่ายที่จะเพิกเฉยต่ออาการผิดปกติหรืออ้างว่าเป็นเพราะอายุที่เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามคุณไม่ควรที่จะถูกละเลยอาการใหม่ๆหรือสัญญาณผิดปกติของร่างกาย ที่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่รุนแรงมากขึ้น ฉะนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะไปตรวจหาสาเหตุ
ถ้าหากคุณพบอาการฉับพลันหรือมีอาการผิดปกติ คุณควรทำการนัดหมายแพทย์ของคุณเพื่อรับการวินิจฉัยสาเหตุ หากคุณค้นพบเงื่อนไขทางสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ อาจจะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังหรือปัญหาอื่นๆได้ในอนาคต
วันนี้เรารวบรวมความรู้ผ่านบทความนี้เพื่อผู้สูงอายุและคนในครอบครัวควรรู้เกี่ยวกับอาการเฉพาะทางที่ควรได้รับการตรวจสอบวินิจฉัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การหายใจติดขัด
ในบางกรณีการหายใจลำบากอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคหัวใจขาดเลือดหรือการอุดตันของหลอดเลือดแดงโดยสมบูรณ์หรืออุดตันเพียงบางส่วนซึ่งทำหน้าที่นำเลือดไปเลี้ยงหัวใจ ซึ่งการอุดตันของหลอดเลือดทั้งสองแบบสามารถก่อให้เกิดหัวใจวายในภายหลังได้
อาการของภาวะขาดน้ำในระยะแรกมีดังนี้
คุณไม่ควรเพิกเฉยต่ออาการเหล่านี้แค่เพียงเพราะว่าคุณไม่รู้สึกเจ็บหน้าอก ความรู้สึกเจ็บหน้าอกเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆอาการของโรคหัวใจวาย ซึ่งแต่ละคนจะมีอาการที่แตกต่างกันออกไป
คุณควรทำการพบแพทย์หากคุณมีอาการหายใจติดขัดเรื้อรังหรือหายใจติดขัดผิดปกติ ถ้าหากคุณมีอาการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้คุณควรขอความช่วยเหลือฉุกเฉินจากทีมแพทย์
- จุกแน่นหน้าอก
- เจ็บหน้าอก
- หายใจติดขัด หายใจสั้น หอบ
- วิงเวียนศีรษะ
ความผิดปกติทางการพูดหรือความผิดปกติของระบบประสาทในการทรงตัวและเคลื่อนไหว
อาการของโรคหลอดเลือดสมองอาจเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ แต่คุณไม่ควรเพิกเฉยต่ออาการเหล่านี้ ซึ่งอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ ได้แก่ ความผิดปกติในการเดินหรือสูญเสียการทรงตัวเฉียบพลัน, ความผิดปกติของระบบการทำงานของประสาท และ อาการอื่นๆเพิ่มเติมได้แก่:
- รู้สึกวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง
- มีปัญหาทางการพูด
- มีการพูดติดขัด หรือ พูดไม่ออก
- การเปลี่ยนแปลงของวิสัยทัศน์และการมองเห็น
- มีอาการอ่อนแรงหรือรู้สึกชาตามบริเวณ ใบหน้า, แขน และ ขา
ถ้าหากคุณพบอาการเหล่านี้จากคนที่คุณรัก คุณควรที่ขอความช่วยเหลือจากแพทย์โดยด่วนเพื่อที่จะจำกัดและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจตามมาได้
การมีเลือดออกทางช่องคลอดหลังจากวัยหมดประจำเดือน
การมีเลือกออกทางช่องคลอดหลังจากวัยหมดประจำเดือนนั้นเป็นสิ่งผิดปกติ แต่ในบางกรณีมันอาจไม่ได้เป็นสัญญาณบ่งบอกอะไรที่ร้ายแรง เช่น การมีเพศสัมพันธ์อาจเป็นสาเหตุของการทำให้เลือดออกที่ไม่ได้ร้ายแรง
แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากคุณหรือคนที่คุณรักมีเลือดออกทางช่องคลอดโดยไม่มีสาเหตุที่แน่ชัดหรือเกิดขึ้นซ้ำๆ การพบแพทย์เป็นสิ่งที่สำคัญที่คุณควรตระหนักถึง เนื่องจากการตกเลือดหลังวัยหมดประจำเดือนอาจเป็นอาการของโรคมะเร็งทางสูตินรีเวชบางชนิดก็เป็นได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่คุณควรพาคนที่คุณรักไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการต่อไป
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือ ที่เรียกว่าการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศจะพบได้บ่อยขึ้นตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ชายไทยที่มีอายุมากกว่า 40 ปีนั้นได้รับผลกระทบจากภาวะนี้
นอกจากภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศจะส่งผลต่อความพึงพอใจทางเพศแล้ว ภาวะนี้ยังสามารถเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคเบาหวาน และ โรคอื่นๆได้ด้วย บ่อยครั้งที่ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศมักจะมีผลกระทบต่อทางร่างกาย แต่อย่างไรก็ตามมันก็ยังสามารถตอบสนองต่อความเครียดหรือภาวะซึมเศร้าที่เพิ่มขึ้นได้เช่นกัน ในกรณีส่วนมากการรักษาสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
อาการท้องผูก
อาการท้องผูกสามารถก่อให้เกิดการกดทับและการรัดที่มากเกินไปในระหว่างการเคลื่อนไหวของลำไส้ ซึ่งอาการบีบรัดอย่างรุนแรงนี้สามารถเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคริดสีดวงทวารได้
แม้ว่าอาการท้องผูกเป็นครั้งคราวจะเป็นเรื่องปกติและสามารถพบได้บ่อยขึ้นหลังช่วงวัย 50 ปี แต่อย่างไรก็ตามอาการท้องผูกอาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่ากำลังมีบางสิ่งขัดขวางการทำงานของระบบขับถ่ายซึ่งอาจเป็นเนื้องอก, ติ่งเนื้อ หรือ สิ่งกีดขวางอื่นๆ
อาการท้องผูกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจก่อให้เกิดอุจจาระแข็งที่เกาะแน่นกับลำไส้และทวารหนัก ซึ่งการเบ่งอุจจาระตามปกติอาจไม่เพียงพอที่จะขับอุจจาระออกไป ซึ่งสามารถเรียกได้อีกอย่างว่า อุจจาระอุดตันซึ่งการรักษาที่ถูกต้องสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูกและป้องกันไม่ให้อาการแย่ลงได้
อุจจาระเป็นเลือด หรือ อุจจาระสีดำ
สีของอุจจาระสามารถเปลี่ยนได้ทุกวันซึ่งขึ้นอยู่กับอาหารหรือยาที่คนที่คุณรักกำลังรับประทาน เช่น อาหารเสริมธาตุเหล็ก และ ยาต้านอาการท้องร่วง เช่น ยาเป็ปโต-บิสมอลอาจทำให้อุจจาระเป็นสีดำและเหนียวได้
ถ้าหากสีของอุจจาระอยู่ในเฉดสีน้ำตาลหรือสีเขียวนับว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าหากคุณสังเกตุเห็นสีอุจจาระเป็นสีดำหรือมีเลือดปนนั่นอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสัญญาณเตือนภัยสุขภาพที่ร้ายแรงกว่าที่คุณคิด การที่อุจจาระเป็นสีดำแสดงว่ามีเลือดออกในระบบทางเดินอาหารส่วนบน (GI) อุจจาระสีน้ำตาลแดงหรือมีเลือดปนสามารถบ่งบอกได้ว่ามีเลือดออกในระบบทางเดินอาหารส่วนล่าง
คุณควรทำการพบแพทย์หากคุณสังเกตุเห็นอุจจาระเป็นเลือดหรือเป็นสีดำ ทางทีมแพทย์สามารถตรวจสอบวินิจฉัยว่ามีแผล, ริดสีดวงทวาร, การอักเสบของถุงผนังลำไส้ และ โรคทางเดินอาหารอื่นๆหรือไม่
เต้านมบวมหรือเปลี่ยนสี
หากคุณพบก้อนเนื้อที่เต้านมหรือรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของเซลล์ต้านมคุณควรทำนัดหมายแพทย์เพื่อทำการตรวจสอบ ก้อนเนื้อในเต้านมบางประเภทอาจไม่อันตรายแต่ถ้าหากคุณพบก้อนเนื้อแข็งในเต้านมนั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็ง
อาการอื่นๆของมะเร็งเต้านมที่พบได้บ่อยได้แก่ อาการบวม, เต้านมนิ่ม, หรือ เต้านมเปลี่ยนสี ส่วนอาการเพิ่มเติมอื่นๆที่ควรระมัดระวังได้แก่ มีสารคัดหลั่งไหลออกมาจากหัวนมและการเปลี่ยนแปลงของผิวเต้านม
มะเร็งเต้านมเป็นโรคที่สามารถรักษาได้และการตรวจพบตั้งแต่ระยะเนิ่นๆจะสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ถึงแม้ว่ามะเร็งเต้านมจะพบได้น้อยในเพศชาย แต่ผู้ชายก็ควรตระหนักถึงอาการของมะเร็งเต้านมที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน
รอยโรคบนผิวหนัง
มะเร็งผิวหนังส่วนใหญ่เกิดขึ้นในบริเวณผิวหนังที่ได้รับผลกระทบจากแสงแดดเป็นประจำเช่น
- หนังศีรษะ
- ใบหน้า
- แขน
- มือ
- คอ
- หน้าอก
- ขา
โรคมะเร็งผิวหนังยังสามารถเกิดขึ้นได้ในบริเวณที่ไม่ค่อยได้รับแสงแดดยกตัวอย่างเช่น ใต้เล็บเท้า หรือ บริเวณอวัยวะเพศ โรคมะเร็งผิวหนังที่พบบ่อยมากที่สุด 3 ชนิดได้แก่ มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา, โรคมะเร็งผิวหนังชนิดเบซาลเซลล์ และ มะเร็งเซลล์สความอส ซึ่งโรคมะเร็งผิวหนังสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าคุณจะมีสีผิวใดก็ตาม
รายงานจากวิทยาลัยผิวหนังแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ระบุไว้ว่ายิ่งคุณมีอายุมากขึ้นเท่าไหร่ ความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนังก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
อีกทั้งคุณก็ยังไม่ควรที่จะเพิกเฉยต่อรอยโรคบนผิวหนังหรือไฝ มากไปกว่านั้นรอยโรคบนผิวหนังที่มีความเจ็บปวด, แผลเปียก หรือ รักษาไม่สมานตัวอาจเป็นเซลล์มะเร็งได้ อาการอื่นๆที่สามารถพัฒนากลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้แก่
- แผลเรียบ, แผลที่มีสีแดงระเรื่อ
- แผลสีน้ำตาลคล้ายรอยแผลเป็น
- มีตุ่มมันวาว นูน
- แผลเรียบแบนมีสะเก็ด
- ตุ่มนูนแดง
- ตุ่มขนาดใหญ่สีน้ำตาลที่มีจุดสีเข้ม
- แผลขนาดเล็กที่มีขอบไม่ชัดเจนสีแดง, สีขาว หรือ สีอมน้ำเงิน
- แผลสีเข้มบนฝ่ามือ, ปลายนิ้วมือ, หัวแม่เท้า หรือ เยื่อเมือกรวมไปถึง ปาก, จมูก, ช่องคลอด หรือ ทวารหนัก
มีอาการของโรคซึมเศร้า
ผู้สูงอายุและสมาชิกในครอบครัวมักให้ความสำคัญกับอาการเจ็บป่วยทางร่างกาย แต่ไม่ใช่ด้านทางอารมณ์ ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้ามากขึ้นเนื่องจากพวกเขาอาจต้องเผชิญกับความรู้สึก สูญเสียและความเหงามากขึ้น
อาการของโรคซึมเศร้า ได้แก่
- รู้สึกเศร้า
- มีความวิตกังวล
- รู้สึกไร้ค่า
- รู้สึกอ่อนเพลียอย่างผิดปกติ
- ความรู้สึกสนใจต่อกิจกรรมที่ชอบน้อยลง
- ความรู้สึดอยากอาหารน้อยลง
- นอนไม่ค่อยหลับ
- นอนหลับมากเกินไป
อาการซึมเศร้าอาจแย่ลงหากปราศจากการรักษาที่เหมาะสม ถ้าคุณหรือคนที่คุณรักประสบกับอาการที่กล่าวมาข้างต้นนี้คุณควรที่จะขอความช่วยเหลือจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
ภาวะสับสนวุ่นวาย และปัญหาทางด้านความจำ
เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อคุณมีอายุเพิ่มขึ้นความสามารถของสมองก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละน้อย แต่เมื่อไหร่ที่คุณพบว่าคนที่คุณรักมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านความทรงจำอย่างกระทันหันหรือประสบกับภาวะสับสนเฉียบพลันนั่นอาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันอาจเกิดขึ้นเนื่องจาก:
- การติดเชื้อทางเดินปัสวะ
- การมีปฏิกิริยาต่อยา
- ปัญหาต่อมไทยรอยด์
- ภาวะร่างกายขาดน้ำ
- เนื้องอกในสมอง
- อาการเบื่ออาหาร
- การติดเชื้ออื่นๆ
ซึ่งอาการที่กล่าวมาข้างต้นนั้นสามารถรักษาได้ แต่อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงบางอย่างอาจเป็นสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์หรือโรคสมองเสื่อมประเภทอื่นๆ หากคุณหรือคนที่คุณรักมีอาการที่กล่าวมาข้างต้นคุณควรทำการนัดหมายแพทย์ทันทีเผื่อตรวจวินิฉัยอาการต่อไป
คุณควรทำอย่างไรเมื่อคุณสังเกตุเห็นสัญญาณและอาการต่างๆ
ถ้าหากคนที่คุณรักกำลังประสบปัญหากับอาการเจ็บป่วยอย่างไม่คาดคิด คุณควรที่จะหาเวลาไปพบแพทย์ เนื่องจากนั่นอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงกว่าเดิม การรับรักษาตั้งแต่ระยะเนิ่นๆสามารถสร้างความแตกต่างต่อผลลัพท์ได้อย่างชัดเจนและเป็นการหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนในผู้สูงอายุอีกด้วย
การจดบันทึกอาการผิดปกติหรืออาการใหม่ๆที่ไม่คุ้นชินก่อนเข้าพบแพทย์อาจจะเป็นประโยชน์กับตัวคุณเอง โดยวิธีนี้จะช่วยให้คุณจำคำถามหรือข้อสงสัยที่ต้องการได้รับคำตอบจากแพทย์ อีกทั้งคุณควรที่จะเตรียมยาและข้อมูลผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับคุณหรือคนที่คุณรัก โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้แพทย์ของคุณสามารถวินิจฉัยและดูแลคุณและคนที่คุณรักได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุดอย่างที่คุณต้องการได้
บ้านลลิสา ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ครบวงจรที่ดีที่สุดสำหรับคนที่คุณรัก
เมื่อคนเราเข้าสู่วัยสูงอายุ นอกจากอายุที่เพิ่มขึ้นแล้วปัญหาสุขภาพต่างๆก็เพิ่มขึ้นเช่นกันจากปัจจัยที่หลากหลาย อาทิเช่น กรรมพันธุ์, การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมรอบตัว, โรคภัยไข้เจ็บ รวมไปถึง พฤติกรรมการใช้ชีวิต บ้านลลิสาเนอร์ซิ่งโฮม ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุครบวงจร เราคำนึงถึงการดูแลด้วยมาตรฐานสากลที่มีประสิทธิภาพสูงสุดต่อคนที่คุณรักด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยนำเข้าจากต่างประเทศ อีกทั้งเรายังมีทีมแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ประจำที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อช่วยดูแลและออกแบบการรักษาที่คำนึงถึงสภาวะสุขภาพของคนที่คุณรัก อีกทั้งคุณสามารถมีส่วนร่วมในการวางแผนการดูแลคนที่คุณรักกับทางทีมแพทย์และพยาบาลจากบ้านลลิสาและขอรับรายงานสุขภาพรายสัปดาห์เพื่อการรักษาอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด เราเชื่อมั่นว่าการรักษาที่ดีต้องมาจากภายในสู่ภายนอก ดังนั้นบ้านลลิสาจึงไม่เพียงแค่มุ่งเน้นทางด้านกายภาพ เรายังให้ความสำคัญต่อด้านจิตใจของคนที่คุณรักเช่นกัน คุณจึงสามารถมั่นใจได้ว่าคนที่คุณรักจะได้รับการบริการดูแลรักษาเสมือนคนในครอบครัว ติดต่อบ้านลลิสาวันนี้เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
บ้านลลิสา เครือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและดูแลผู้ป่วยระยะพักฟื้น
