logo main logo dark logo light ติดต่อสอบถามโทร

วิธีจัดการความเครียดสำหรับผู้ดูแลที่มีผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุในบ้าน

สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงาน และยังสร้างความยากลำบากในการดำเนินชีวิตประจำวันของใครหลายๆ คน เป็นเหตุให้เกิดความตึงเครียดและความวิตกกังวลอย่างมากในสังคมปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่มีผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุอยู่ในความดูแล ผู้ดูแลและสมาชิกครอบครัวอาจจะต้องเผชิญกับความเครียดจากการให้การดูแลผู้ป่วยมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งในด้านร่างกายจิตใจของผู้ดูแล จนทำให้ไม่สามารถให้การดูแลผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่ออารมณ์และสุขภาพจิตของผู้ป่วยและผู้สูงอายุอีกด้วย ซึ่งความเครียดเหล่านี้จะนำไปสู่ความขัดแย้งกับคนรอบข้างและคนในครอบครัวได้
ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ผู้ดูแลและสมาชิกในครอบครัวควรจะต้องหมั่นสังเกตอารมณ์และประเมินสุขภาพจิตของตัวเองเป็นประจำ หากมีความเครียดและวิตกกังวลมากเกินไป อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหมดไฟในการให้การดูแล (Caregiver Burnout) ได้ สามารถสังเกตตัวเองเบื้องต้นได้จากอาการบ่งชี้ที่จะกล่าวต่อไปนี้

9 อาการบ่งชี้ของภาวะหมดไฟในผู้ดูแลผู้ป่วย

การดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้ผู้ดูแลเกิดภาวะหมดไฟโดยที่ไม่รู้ตัวได้ ภาวะหมดไฟในผู้ดูแล (Caregiver Burnout) คือภาวะที่ร่างกายเกิดความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย และมีความเครียดจากการให้การดูแลผู้ป่วยเป็นเวลานาน โดยภาวะหมดไฟจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้ดูแล จนทำให้ไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาการบ่งชี้ของภาวะหมดไฟในผู้ดูแล ประกอบด้วย
  • นอนน้อยหรือนอนเยอะขึ้นกว่าปกติ
  • เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย พักผ่อนเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ
  • รู้สึกเครียดและวิตกกังวลตลอดเวลา
  • อารมณ์แปรปรวน อ่อนไหวง่าย
  • มีอาการปวดหลังหรือปวดศีรษะเรื้อรัง
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน
  • มีอาการปวดท้อง หรือท้องอืดบ่อย
  • มีพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เช่น ดื่มหนักมากขึ้น หรือไม่อยากเคลื่อนไหวร่างกาย
  • ไม่อยากพบปะผู้คน
  • รู้สึกหมดหวัง ไม่มีกำลังใจ
ผู้ดูแลควรหมั่นสังเกตตัวเองอย่างสม่ำเสมอจากอาการบ่งชี้ที่กล่าวมาข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ภาวะตึงเครียดในครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตระหนักถึงความเสี่ยงและปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงสามารถจัดการกับอารมณ์และความเครียดได้อย่างถูกต้อง ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน

ให้เราช่วยดูแลคนที่คุณรัก โทรหาเราตอนนี้

แนวทางเบื้องต้นในการรับมือกับภาวะหมดไฟของผู้ดูแล

  • ฝึกจิตและการทำสมาธิ: การฝึกจิตและการทำสมาธิเป็นประจำจะช่วยผ่อนคลายความเครียดและบรรเทาอาการวิตกกังวล อันเป็นส่วนสำคัญที่ก่อให้เกิดอาการหมดไฟของผู้ดูแล การทำสมาธิด้วยการหายใจเข้าลึกๆ และการหายออกอย่างช้าๆ ในตอนเช้า หรือก่อนเข้านอนเพียงแค่ 10 นาที จะช่วยให้ร่างกายและสมองได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย จิตใจสงบนิ่ง อีกทั้งยังส่งผลดีต่อระบบการทำงานของร่างกาย ทำให้เราสามารถรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น
  • เขียนบันทึกประจำวัน: การเขียนบันทึกประจำวันจะช่วยให้เราสังเกตสภาวะอารมณ์ในแต่ละวัน เพื่อให้สามารถจัดการกับความเครียดได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้การเขียนบันทึกเพื่อระบายความรู้สึกยังสามารถบรรเทาอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: การดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องมักจะทำให้ผู้ดูแลละเลยสุขภาพของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ หรือทานอาหารชนิดเดิมซ้ำๆ เนื่องจากไม่มีเวลาในการประกอบอาหารหรือไม่สามารถออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านได้อย่างสะดวก การใช้บริการเดลิเวอรีจากร้านอาหารและซูเปอร์มาร์เก็ตจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยประหยัดเวลาในการเตรียมอาหาร อีกทั้งยังสามารถเลือกรับประทานอาหารที่หลากหลายและมีประโยชน์ได้
  • ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายเพียงวันละ 15 – 30 นาที ต่อวันจะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายจากความเครียด เนื่องจากสมองจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุข ได้แก่ เอ็นโดฟิน และโดพามีน ที่ช่วยปรับอารมณ์และทำให้เรารู้สึกมีความสุข อีกทั้งการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญและการทำงานของหัวใจให้ดีขึ้น

ไว้ใจให้เราดูแลคนที่คุณรัก เลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ บ้านลลิสา

ไว้วางใจในเราดูแลคนที่คุณรัก ที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ บ้านลลิสา
การให้การดูแลผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุเป็นระยะเวลานานต่อเนื่องมักก่อให้เกิดความเครียดแก่ผู้ดูแล ซึ่งภาวะความเครียดเหล่านี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อร่างกายและจิตใจของผู้ดูแล หากคุณรู้สึกว่าไม่สามารถแบกรับภาระได้อีกต่อไป เลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุบ้านลลิสา เราพร้อมให้การดูแลคนที่คุณรักอย่างเต็มที่ โดยทีมผู้ดูแลและพยาบาลผู้เชี่ยวชาญตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมการตรวจเยี่ยมจากแพทย์เป็นประจำทุกวัน อีกทั้งยังมีศูนย์กายภาพบำบัดครบวงจร และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่ที่บ้าน โทรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราตอนนี้ เพื่อออกแบบโปรแกรมดูแลคนที่คุณรัก